แหล่งท่องเที่ยว
แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ วัดควนท่าแร่ ตำบลทรัพย์ทวี

 

 

ที่ตั้ง      บ้านควนท่าแร่ ตำบล/แขวง  ทรัพย์ทวี   อำเภอ/เขต  บ้านนาเดิม   จังหวัด สุราษฎร์ธานี 

ประวัติ

          วัดไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด อย่างไรก็ดีสันนิษฐานจากโบราณวัตถุ โบราณสถานภายในบริเวณวัดแสดงว่า  วัดควนท่าแร่เป็นวัดโบราณที่น่าจะมีอายุสมัยตั้งแต่ราวรัตนโกสินทร์ตอนต้นเป็นอย่างน้อย และอาจขึ้นไปถึงสมัยอยุธยาตอนปลาย  ชื่อควนท่าแร่  คงมาจากชื่อภูเขาดินที่มีแร่ดินลูกรังหรือแร่เหล็ก  มีคำกลอนหรือมุขปาฐะว่า "วัดควนท่าแร่  มีแม่สระใหญ่  พ่อหม้ายแลไป  แม่หม้ายแลมา  ใครรู้จักกา  กาจะบอกให้" 

ลักษณะทางสถาปัตยกรรมและศิลปกรรม 

 

๑.เจดีย์    มีทั้งหมด ๓ องค์  เรียงกันตามแนวทิศเหนือ-ใต้  เจดีย์องค์กลางมีขนาดใหญ่กว่าเจดีย์บริวารที่ขนาบข้างทางทิศเหนือและทิศใต้  ดังต่อไปนี้

          -เจดีย์ด้านทิศเหนือ เป็นเจดีย์สี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสองตั้งแต่ส่วนฐานถึงองค์ระฆังฐานล่างสุดเป็นฐานเขียงสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดประมาณ ๒.๑๐ x ๒.๑๐ เมตร  ถัดขึ้นไปเป็นฐานบัวย่อมุมไม้สิบสอง ท้องไม้สูงกลางด้านทั้งสี่ของท้องไม้เจาะซุ้มมีรูปช้างปูนปั้นประดับอยู่ในซุ้ม ถัดขึ้นไปเป็นฐานสิงห์ย่อมุมไม้สิบสองทรงสูงรองรับบัวกลุ่มปากระฆัง  ซึ่งรองรับองค์ระฆังรูปสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง ยอดทำเป็นบัวกลุ่มเถา ๓ ชั้นส่วนบนคาดด้วยลูกแก้ว  ก่อนถึงปลียอดซึ่งหักลงครึ่งหนึ่ง          

           -เจดีย์ประธาน  (เจดีย์องค์กลาง)       เป็นเจดีย์สี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสองขนาด ๓.๕๐x ๓.๕๐ เมตร  ประกอบด้วยฐานเขียง ๓ ชั้น  รองรับฐานบัวลูกแก้วอกไก่ ๑ ชั้น และฐานปัทม์อีก ๑ ชั้น  สภาพหักพังตั้งแต่ส่วนบัวปากระฆัง  ไม่ปรากฏตัวองค์ระฆังและเครื่องยอด          

           -เจดีย์ด้านทิศใต้    เป็นเจดีย์สี่เหลี่ยมจัตุรัสคล้ายกับเจดีย์องค์ด้านทิศเหนือทุกประการขนาด ๒.๑๐ x ๒.๑๐ เมตร  ก่ออิฐถือปูน  ประดับด้วยปูนปั้นรูปช้างในซุ้ม

๒. พระพุทธรูปและฐานพระพุทธรูป

ฐานพระพุทธรูปลักษณะเป็นฐานชุกชีรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาด ๔.๔๐ x ๓.๖๐ เมตร  มีพระพุทธรูปอยู่บนฐาน ๖ องค์  ด้านหน้า ๓ องค์  ด้านหลัง ๓ องค์  แต่ฐานพระพุทธรูปแถวหลังด้านทิศเหนือพังลงแล้ว  พระพุทธรูปแถวหน้า ๓ องค์  เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย  อาจจะสร้างขึ้นภายหลังพระพุทธรูปแถวหลัง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศิลาทรายแดง   โดยประกอบด้วย          

พระพุทธรูปแถวหน้า  

- ด้านทิศเหนือ   ฐานพระพุทธรูปเป็นฐานสิงห์  มีผ้าทิพย์ประดับข้างหน้า  ที่ชั้นบัวหงายปั้นเป็นลายกนก   - องค์กลาง   ฐานพระพุทธรูปเป็นฐานสิงห์  บัวหงายทำเป็นรูปกลีบบัวซ้อนกัน  

- ด้านทิศใต้   ฐานพระพุทธรูปเป็นฐานสิงห์  มีผ้าทิพย์ประดับข้างหน้า

พระพุทธรูปแถวหลัง 

- ด้านทิศเหนือ   เป็นพระพุทธรูปศิลาทรายแดง  ขัดสมาธิราบ  ปางมารวิชัย  ประทับนั่งบนฐานสิงห์  ด้านหน้าประดับด้วยผ้าทิพย์  

- องค์กลาง   เป็นพระประธานทำจากศิลาทรายแดง ขนาดหน้าตักกว้างประมาณ ๒.๒๕ เมตร ประทับนั่งขัดสมาธิราบบนฐานสิงห์ ปางมารวิชัย  ลักษณะพระพุทธรูปเป็นศิลปะท้องถิ่น  สมัยอยุธยาตอนปลายถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้น  

- ด้านทิศใต้   ฐานพระพุทธรูปหักพังไป  เหลือแต่พระพุทธรูปหินทราย  ซึ่งส่วนบนหัก

๓. ฐานใบเสมา

          มีทั้งหมด ๗ ฐาน  เป็นฐานก่ออิฐถือปูนสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง  ประกอบด้วยฐานเขียง ๑ ชั้น  ฐานสิงห์ ๑ ชั้น  เหนือฐานสิงห์เป็นใบเสมาคู่  ปัจจุบันเหลืออยู่ ๙ ใบ  ส่วนตัวพระอุโบสถได้บูรณะเป็นของทำขึ้นใหม่ไปแล้ว 

๔. อุโบสถ

          มีขนาดประมาณ ๔.๕๐ x ๑๒.๐๐ เมตร  บริเวณโดยรอบเป็นที่ประดิษฐานใบเสมาคู่ทำด้วยหินทราย  สลักเป็นลวดลายพันธุ์พฤกษา  อุโบสถหลังเก่าได้ถูกของใหม่สร้างทับไปหมดแล้ว ซึ่งหลังเก่านั้นได้ถูกรื้อไปจนเหลือเฉพาะส่วนฐานเท่านั้น 

 สภาพปัจจุบัน     อุโบสถได้รับการบูรณะใหม่ แต่ยังคงใบเสมาเดิมไว้ โดยใบเสมามีสภาพพังทลาย และฐานชุกชีพระประธานเสื่อมสภาพมาก ลักษณะการใช้งานปัจจุบัน   เป็นวัดในพุทธศาสนาและเป็นโบราณสถาน

ที่มา http://www.gis.finearts.go.th